วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ข้อมูลเสียง
คำอธิบาย: http://renoir.en.kku.ac.th/cpp/img405.gifได้จากการเปลี่ยนเสียงให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า โดย ไมค์โครโฟน และคอมพิวเตอร์จะเปลี่ยนให้กลายเป็น ค่าตัวเลข แทน ความแรงของสัญญาณเสียง (โวลต์) ณ.เวลาหนึ่งๆ ตามช่วงเวลาการสุ่มที่กำหนด โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Analog to digital converter ค่าตัวเลขนี้ สามารถแปลงกลับให้เป็น สัญญาณไฟฟ้า ออกทาง Audio output โดย digital to analog converter ผ่านเครื่องขยายเสียงและ ลำโพงเป็นเสียงกลับมาได้ ในการจัดเก็บข้อมูลเสียงจะมีการบีบอัดข้อมูลเพื่อให้จำนวนข้อมูล น้อยลง และมีคุณภาพเสียงใกล้เคียงกับของเดิม โดยสามารถทำได้หลายวิธี วิธีหนึ่งที่แพร่หลายในปัจจุบัน ที่เรียกกันว่า แฟ้มข้อมูลแบบ MP3 ซึ่งเป็นการเข้ารหัสเสียง แบบ MPEG-1 Audio Layer 3 ทั้งนี้ การเข้ารหัสแบบนี้ข้อมูลบางส่วนจะสูญหายไป แต่คุณภาพของเสียงที่ได้จะมีความใกล้เคียงเสียงจริงที่สุด โดยที่ผู้ฟังแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง แต่ทั้งนี้ขนาดของข้อมูลที่ลดลงมีขนาดกว่า 10 เท่าของข้อมูลการสุ่มค่าตามปกติ

ข้อมูล (Data)

ข้อมูลคือสิ่งที่ผู้ใช้สนใจ ซึ่งขึ้นอยูกับการประยุกต์ใช้งานคอมพิวเตอร์ ในธุรกิจการค้าข้อมูลการขายสินค้านับเป็นหัวใจหลัก เช่น จำนวนสินค้าที่ขายได้ในแต่ละครั้ง ราคาที่ขาย ในธุรกิจก่อสร้าง มีสิ่งสำคัญในการควบคุมงาน อาทิเช่น จำนวนคนงาน ปริมาณวัสดุที่ใช้ในแต่ละวัน รวมไปถึงแผนการทำงาน ในโรงงานอุตสาหกรรม ความต้องการรู้เกี่ยวกับกำลังการผลิต ปริมาณวัสดุที่ต้องใช้ และจำนวนของเสีย เป็นต้น ข้อมูลเหล่านี้จะต้องเก็บรวบรวมโดยขบวนการอัตโนมัติ หรือการจดบันทึก และข้อมูลจะถูกนำมาประมวลผล เช่น สรุปยอดรายวัน รายเดือน เป็นสารสนเทศ เพื่อประโยชน์ในการตัดสินใจในการทำงาน ทั้งนี้ ข้อมูลต้องมีความถูกต้อง ครบถ้วน จึงจะได้สารสนเทศที่มีประโยชน์ อีกทั้งต้องสรุปข้อมูลได้ภายในเวลาที่เหมาะสม ทั้งนี้ การประมวลผลข้อมูลอาจทำได้เองโดยผู้ใช้ข้อมูล แต่เมื่อปริมาณของข้อมูลมีจำนวนมากขึ้นการประมวลผลด้วยเครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์ จะสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และถูกต้อง แม่นยำ
คอมพิวเตอร์ จะให้สารสนเทศจากการจำลองระบบ โดยผู้ใช้ต้องสร้างแบบจำลอง และทดลองเปลี่ยนข้อมูลต่างๆ เพื่อดูข้อมูล ผลของการจำลองระบบ เช่น การจำลองโครงสร้างอาคาร ทดลองเปลี่ยนโครงสร้าง และหาความสามารถในการรับน้ำหนักของโครงสร้าง การจำลองการทำงานของเครื่องยนต์ หาค่าความเค้นของชิ้นส่วนต่างๆ การจำลองวงจรไฟฟ้า เพื่อหาคุณลักษณะของสัญญาณไฟฟ้าที่จุดต่างๆในวงจร เป็นต้น
คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือในการบันทึกข้อมูล เช่นการใช้บันทึกเอกสาร เนื่องจากสามารถ แก้ไขได้โดยง่าย และสามารถทำสำเนาได้โดยแทบจะไม่มีค่าใช้จ่าย การสืบค้นข้อมูลที่จัดเก็บทำได้โดยสะดวก ชุดข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ ยังถูกเผยแพร่โดยอาศัยระบบเครื่องข่ายคอมพิวเตอร์ เช่น ในระบบ Internet มีการสร้าง Web site จำนวนมาก เพื่อเผยแพร่ข้อมูลทั้งที่เป็นทางการ และไม่เป็นทางการ

2.3.1 ข้อมูลและ การประมวลผล

ความจริงแล้ว คอมพิวเตอร์ไม่สามารถเข้าใจสิ่งใดๆ ได้ด้วยตนเอง สิ่งที่ทำได้คือ ทำตามคำสั่งที่ได้ถูกโปรแกรมไว้ คอมพิวเตอร์ทำงานโดยอาศัยความแตกต่างของสถานะทางกายภาพ 2 สถานะ ที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าขั้วแม่เหล็ก หรือการสะท้อนของแสงเท่านั้น อาจกล่าวได้ว่าสิ่งที่คอมพิวเตอร์เข้าใจได้ คือ สถานการณ์เปิด/ปิดของสวิทช์ เท่านั้น
ฉะนั้นคำว่าข้อมูล (Data) จึงหมายถึงสถานะเปิด/ปิด (0/1) ที่ได้ถูกจัดกลุ่ม คอมพิวเตอร์จะนำข้อมูลดังกล่าวมาจัดรูปแบบใหม่ให้ได้เป็นสิ่งที่เรียกว่า สารสนเทศ (Information) ซึ่งจะเป็นผลที่ได้จากการประมวลผลข้อมูลโดยโปรแกรม เพื่อให้สามารถสื่อสารความหมายบางอย่างได้ดีขึ้นมากกว่า ข้อมูลที่ยังไม่ได้ผ่านการประมวลผล เช่น ข้อมูลเป็นตัวอักษรบนหน้ากระดาษ แต่ถ้าได้ประมวลผลให้เป็นสารสนเทศ ในรูปของรายงาน ตาราง หรือกราฟ ก็จะสามารถสื่อสารความหมายบางอย่างได้ดีขึ้น (ดู รูปที่ 36) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ใช้

การแทนข้อมูลในคอมพิวเตอร์

สถานะของสวิทช์อิเล็กทรอนิกส์เล็กๆ ภายในคอมพิวเตอร์นั้นจะถูกแทนด้วยตัวเลข เนื่องจากสวิทช์มีแค่ 2 สถานะ คือ ปิดและเปิด ตัวเลขที่ใช้แทนสถานะของสวิทช์ก็จะมี 2 ตัว เช่นเดียวกัน คือ 0 และ 1 ระบบตัวเลขที่มีการใช้ตัวเลขเพียง 2 ตัวนี้ เรียกว่า Binary system ถ้าต้องการแทนตัวเลขที่มีค่ามากกว่า 1 ก็จะต้องใช้ตัวเลข 2 ตัว
ตัวเลขฐาน 10
ตัวเลขฐาน 2
0
0
1
1
2
10
3
11
4
100
5
101
6
110
7
111
8
1000
9
1001
10
1010
สำหรับข้อมูลประเภทอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลตัวอักษร, ข้อมูลรูปภาพ หรือแม้กระทั่งคำสั่งในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็จะถูกแทนด้วยเลข 0 และ 1 นี้ เช่นเดียวกัน ตัวอักษรที่เราเห็นบนจอภาพคอมพิวเตอร์นั้นเป็นเพียงวิธีการที่คอมพิวเตอร์ใช้สัญลักษณ์แทนตัวเลขเท่านั้น
เมื่อพูดถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์แล้ว สวิทช์แต่ละตัวที่ใช้แทนสถานะเปิด/ปิด 1 ตัวนั้นเรียกว่า บิต (bit) ดังนั้น bit จึงเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของข้อมูลในคอมพิวเตอร์หน่วยที่ใหญ่ขึ้นของบิต คือ กลุ่มของบิตจำนวน 8 บิต เรียกว่าไบต์ (byte) และด้วยจำนวน 8 บิตหรือ 1 ไบต์นี้เองที่ทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแทนค่าของตัวเลขได้ 256 ค่าด้วยกัน คือ 0 ถึง 255 (ซึ่งก็คือ 0 ถึง 28 ) และตัวจำนวนบิตขนาด 8 บิตนี้สามารถใช้แทนตัวอักษรต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่อนข้าง


กลุ่มข้อมูลเสียง

น.ส. รัชฎาภรณ์ นาคูณ เลขที่15 สบค 1/3

น.ส. นันฑิชา    แสนสีมน เลขที่ 7 สบค 1/3

น.ส. ประนัดดา ประเสริฐสินเดิม เลขที่ 10 สบค1/3

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น